หน้าหลัก > บทความและรีวิว > เสียงแทรกตอนประชุม? 5 เทคนิคยกระดับความเป็นมือโปรในการประชุมออนไลน
เสียงแทรกตอนประชุม? 5 เทคนิคยกระดับความเป็นมือโปรในการประชุมออนไลน
เสียงแทรกตอนประชุม? 5 เทคนิคยกระดับความเป็นมือโปรในการประชุมออนไลน
20 Oct, 2025 / By kawathailand
Images/Blog/snV8L4X5-สีฟ้า และ สีน้ำเงิน เรียบง่าย โมเดิร์น นวัตกรรม อนาคต คอนเทนต์ โพสต์ อินสตาแกรม (3).png

ยุค Hybrid Working ที่การทำงานผสมผสานระหว่างออฟฟิศและที่บ้านกลายเป็นเรื่องปกติ การประชุมออนไลน์ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญของการทำงาน แต่เคยไหม? ที่ช่วงเวลาสำคัญในการนำเสนอโปรเจกต์ กลับมีเสียงไม่คาดฝันแทรกเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเสียงเด็กร้อง, เสียงสุนัขเห่าจากข้างบ้าน, หรือแม้แต่เสียงก่อสร้างที่ดังสนั่น สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำลายสมาธิของคุณและเพื่อนร่วมงาน แต่ยังบั่นทอนภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพของคุณในสายตาคนอื่นอย่างน่าเสียดาย

บทความนี้จะพาคุณไปพบกับ 5 เทคนิค ที่จะช่วยจัดการกับเสียงรบกวนเหล่านั้นและยกระดับการประชุมออนไลน์ของคุณให้เป็นมืออาชีพอย่างไร้ที่ติ ทำให้ทุกคนต้องทึ่งกับความเป็นมือโปรของคุณ!

4 เทคนิคพื้นฐานที่คุณอาจมองข้าม

ก่อนที่เราจะไปพบกับ "อาวุธลับ" ชิ้นสำคัญ เรามาทบทวนเทคนิคเบื้องต้นที่สามารถทำได้ทันที ซึ่งช่วยลดปัญหาเสียงรบกวนได้ในระดับหนึ่ง:

1. เลือกสถานที่ประชุมให้เหมาะสม: สิ่งแรกที่ง่ายที่สุดคือการหามุมที่เงียบสงบที่สุดในบ้านหรือออฟฟิศ หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีคนเดินผ่านไปมา หรือใกล้หน้าต่างที่ติดกับถนนใหญ่ เพราะเสียงเหล่านั้นพร้อมจะแทรกเข้ามาในการประชุมของคุณได้เสมอ

2. ใช้ฟังก์ชัน Mute ให้เป็นนิสัย: "ถ้าไม่ได้พูด ให้กด Mute" นี่คือกฎเหล็กของการประชุมออนไลน์ที่ทุกคนควรปฏิบัติให้เป็นนิสัย เพื่อป้องกันเสียงที่ไม่พึงประสงค์จากฝั่งเราเล็ดลอดเข้าไปรบกวนผู้อื่น แต่แน่นอนว่า...วิธีนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาเสียงรบกวนในขณะที่คุณกำลังพูดได้

3. พึ่งพาโปรแกรมตัดเสียงรบกวน: ปัจจุบันโปรแกรมประชุมออนไลน์อย่าง Zoom หรือ Microsoft Teams มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนในตัว หรือจะเลือกใช้แอปพลิเคชันเสริมอย่าง Krisp ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แม้ว่าโปรแกรมเหล่านี้จะช่วยกรองเสียงได้ดีในระดับหนึ่ง แต่อาจไม่สมบูรณ์ 100% และบางครั้งก็อาจตัดเสียงพูดของเราจนเพี้ยนไปได้เช่นกัน

4. การจัดตารางเวลาอย่างชาญฉลาด: หากคุณรู้ว่าช่วงเวลาไหนของวัน ที่บ้านหรือสภาพแวดล้อมรอบตัวจะมีเสียงดังเป็นพิเศษ เช่น ช่วงที่รถขยะมาเก็บขยะ หรือช่วงที่เด็กๆ กลับจากโรงเรียน การพยายามหลีกเลี่ยงการนัดประชุมในช่วงเวลาดังกล่าวก็เป็นอีกหนึ่งวิธีแก้ปัญหาที่ปลายเหตุได้

เทคนิคทั้ง 4 ข้อนี้เป็นวิธีที่ดีในการบรรเทาปัญหา แต่หากคุณต้องการแก้ปัญหาที่ต้นตอและสร้างความเป็นมืออาชีพที่แท้จริง ถึงเวลาแล้วที่คุณต้อง "ลงทุน" กับเทคนิคข้อที่ 5

เทคนิคที่ 5: ลงทุนกับ ‘อาวุธลับ’ ชิ้นเดียวจบ: หูฟังตัดเสียงรบกวนพร้อมไมโครโฟนคุณภาพสูง

เคยสงสัยไหมว่าทำไมผู้บริหารระดับสูงหรือนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ถึงสามารถประชุมออนไลน์ได้อย่างราบรื่น เสียงของพวกเขาคมชัดและไม่มีเสียงรบกวนใดๆ เลย? คำตอบไม่ใช่เพราะบ้านของพวกเขากันเสียงได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่เป็นเพราะพวกเขาเลือกใช้อุปกรณ์ที่ถูกต้อง

การลงทุนกับ "หูฟังที่มีเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนสำหรับไมโครโฟน (Noise-Cancelling Microphone)" คือการแก้ปัญหาที่ตรงจุดและเห็นผลที่สุด เพราะมันไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นมืออาชีพในทุกสถานการณ์

สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคุณใช้หูฟังที่ใช่:

  • ฝั่งของคุณ: เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน (Active Noise Cancellation) ในหูฟัง จะช่วยตัดเสียงแวดล้อมรอบตัวคุณออกไป ทำให้คุณได้ยินเสียงของคู่สนทนาอย่างชัดเจนและมีสมาธิกับการประชุมได้เต็ม 100% ไม่ว่ารอบข้างจะวุ่นวายแค่ไหนก็ตาม
  • ฝั่งปลายสาย: นี่คือจุดที่สำคัญที่สุด! ไมโครโฟนคุณภาพสูงที่มาพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน จะทำหน้าที่ "ดูด" เฉพาะเสียงพูดของคุณ และ "ตัด" เสียงรบกวนอื่นๆ ทิ้งไป ไม่ว่าจะเป็นเสียงพัดลม, เสียงแอร์, หรือเสียงสุนัขเห่า ผลลัพธ์คือปลายสายจะได้ยินแต่เสียงของคุณที่คมชัดระดับ HD สร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพให้คุณได้อย่างทันที

ขอแนะนำ Kawa K10C+: อาวุธลับคู่ใจคนทำงานยุคใหม่

หากคุณกำลังมองหาหูฟังที่จะเป็น "Game Changer" ในการประชุมออนไลน์ของคุณ เราขอแนะนำ Kawa K10C+ หูฟังบลูทูธที่ออกแบบมาเพื่อการสื่อสารที่เหนือระดับโดยเฉพาะ นี่ไม่ใช่แค่หูฟัง แต่คือเครื่องมือที่จะยกระดับการทำงานของคุณ

ด้วยสเปคที่คิดค้นมาเพื่อความเป็นมืออาชีพ:

  • เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนขั้นสูง: หัวใจสำคัญคือชิปเซ็ตนำเข้าจากอังกฤษ Qualcomm QCC3040 ที่ทำงานร่วมกับ AI V5.4 ช่วยประมวลผลและตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างแม่นยำ เหลือไว้เพียงเสียงพูดของคุณที่คมชัด ทำให้คู่สนทนาได้ยินทุกคำพูดของคุณอย่างชัดเจน
  • การเชื่อมต่อที่เสถียรไร้ที่ติ: มาพร้อมบลูทูธเวอร์ชั่นล่าสุด 5.4 ทำให้การเชื่อมต่อรวดเร็ว ไม่ดีเลย์ และไม่หลุดง่ายระหว่างการประชุมสำคัญ กินพลังงานต่ำ ใช้งานนานๆ เครื่องก็ไม่ร้อน
  • ไมโครโฟนคุณภาพสูง: ใช้ Silicon Microphone ที่รับเสียงพูดได้ดีกว่าไมโครโฟนทั่วไปถึง 60% และรองรับ HD Voice และ Aptx Adaptive เพื่อคุณภาพเสียงสนทนาที่คมชัดที่สุด
  • แบตเตอรี่อึดพร้อมลุยทุกสถานการณ์: สนทนาต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 18 ชั่วโมง และมาพร้อมกล่องชาร์จความจุ 500 mA ที่มีไฟ LED บอกสถานะแบตเตอรี่ ให้คุณพร้อมสำหรับทุกการประชุมที่ยาวนาน
  • ออกแบบเพื่อความสะดวกสบาย: น้ำหนักเบา ใส่สบาย สามารถใส่ได้ทั้งข้างซ้ายและขวา มีปุ่มควบคุมครบครันทั้งเพิ่ม-ลดเสียงและปุ่มปิดไมค์ที่ตัวหูฟัง และยังกันน้ำได้อีกด้วย

การประชุมครั้งต่อไปของคุณ ไม่จำเป็นต้องกังวลกับเสียงที่ไม่คาดฝันอีกต่อไป ไม่ว่าสถานการณ์รอบข้างจะเป็นอย่างไร คุณจะยังคงนำเสนอและสื่อสารได้อย่างมืออาชีพเสมอ

สรุป: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือการลงทุนในตัวเอง

การปล่อยให้เสียงรบกวนเข้ามาขัดจังหวะในการประชุม ก็เหมือนกับการปล่อยให้ภาพลักษณ์ความเป็นมืออาชีพของคุณถูกลดทอนลงไป การแก้ปัญหาด้วย 4 เทคนิคแรกอาจช่วยได้ชั่วคราว แต่การลงทุนกับอุปกรณ์ที่ดีอย่างหูฟัง Kawa K10C+ คือการลงทุนกับ "ภาพลักษณ์" และ "ประสิทธิภาพ" ในการทำงานของคุณในระยะยาว

หยุดปล่อยให้เสียงรบกวนเป็นอุปสรรคในการทำงานของคุณ วันนี้...ถึงเวลาอัพเกรดความเป็นมือโปรของคุณแล้ว

สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหูฟัง Kawa K10C+ เพื่อยกระดับการประชุมของคุณได้ที่ http://kawathailand.com/default.aspx

 

Like
ความคิดเห็น (0)
ก่อนหน้า 1 ถัดไป
ร้านค้าออนไลน์
© 2006-2025
Vevo Systems Co., Ltd.